Hotline 083-411-9393
Monday , 30 June 2025
Home News นายก สรยท. ประกาศแผนงานปี 2568 รุกกิจกรรมเสริมแกร่งวิชาชีพ หนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
News

นายก สรยท. ประกาศแผนงานปี 2568 รุกกิจกรรมเสริมแกร่งวิชาชีพ หนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

นายก สรยท. ประกาศแผนงานปี 2568 รุกกิจกรรมเสริมแกร่งวิชาชีพ หนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

สรยท.จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีนายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thai Automotive Journalists Association : TAJA เป็นประธาน พร้อมเปิดแผนการทำงานของปีที่ 2 มุ่งยกระดับความเข้มข้นของทุกกิจกรรมขึ้นจากปีที่ผ่านมาให้สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ เดินหน้าจัดงานรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 โดยทุกกิจกรรมล้วนยึดผลประโยชน์ที่ทางสมาคมฯ และสมาชิกของสมาคมฯ จะได้รับผ่านทางกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ อันหลากหลายเพื่อเสริมแกร่งทักษะวิชาชีพสื่อมวลชนสายยานยนต์ และส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย พร้อมขอบคุณสมาชิกสมาคมที่เข้าร่วมประชุมคับคั่ง และให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่สมาคมจัดขึ้นมาโดยตลอด

นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. เปิดเผยว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสมาชิก ที่มองเห็นความสำคัญของการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ของทางสมาคมฯ ซึ่งในปีนี้ มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมถึง 145 คน แน่นอนว่านอกเหนือจากการรายงานการทำงานของคณะกรรมการวาระปี 2567-2569 ในช่วงปีแรกแล้ว ในโอกาสเดียวกันสมาคมฯ ยังประกาศแผนในการทำงานของปีที่ 2 ออกมาอีกด้วย โดยยังยึดหลักในเรื่องที่ยึดผลประโยชน์ที่ทางสมาคมฯ และสมาชิกของสมาคมฯ จะได้รับผ่านทางกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ทั้งการสัมมนาเชิงวิชาการ และโปรเจกต์ฝึกอบรมต่างๆ ที่สมาคมฯ จะจัดขึ้นมาเพื่อเพิ่มพูนทักษะในหลายๆ ด้านให้กับสมาชิก ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจสื่อยุคปัจจุบัน” นายสุรศักดิ์ กล่าว

นอกจากนั้น ในเรื่องของการจัดงาน THAILAND CAR OF THE YEAR, THAILAND EV OF THE YEAR และ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR ปี 2025 นั้น ทางสมาคมฯ ได้เร่งกระบวนการทำงานให้เร็วขึ้น พร้อมกับมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการคัดเลือกและตัดสินขึ้นมาทำงานจำนวน 26 ท่าน ในการพิจารณาถึงกฎและกติกาที่จะใช้ในการคัดเลือกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เข้าเกณฑ์ ซึ่งในปี 2025 นี้ ทางคณะอนุกรรมการมีความเห็นตรงกันในการพิจารณาถึงการปรับปรุงกฎระเบียบที่จะให้มีการครอบคลุมถึงรถที่ “ปรับโฉม” หรือ “Minor Change” ด้วย แต่จะต้องมีกรอบในการพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ

“ตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เราได้มองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดรถยนต์ไทย จำนวนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เป็นโมเดลเชนจ์ (Model change) ซึ่งทางสมาคมใช้เป็นเกณฑ์หลักในการพิจารณา

นั้นเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน และบริษัทรถยนต์เริ่มขยายระยะเวลาในการทำตลาดรถยนต์รุ่นเดิมนานขึ้น ทำให้คณะอนุกรรมการทำงานในปีนี้มีความเห็นว่าน่าจะต้องนำหัวข้อนี้มาพิจารณาใหม่เพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงทั้งในปีนี้และในอนาคต”

วัตถุประสงค์ในการเปลี่ยนแปลงกติกาในปี 2025 คือ

๏ เพื่อสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยในปัจจุบัน ซึ่งรถยนต์สันดาปภายใน และรถจักรยานยนต์มีรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นการเปลี่ยนโฉมหรือ Model Change มีจำนวนลดลงเรื่อยๆ ในแต่ละปี และมีแนวโน้มว่าบริษัทรถยนต์จะยืดอายุในการทำตลาดผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้นานขึ้น

๏ เพื่อให้รถยนต์ที่เป็นแค่การปรับโฉม หรือ Minor Change แต่มาพร้อมกับการเพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือนวัตกรรมที่น่าสนใจได้มีโอกาสเข้าเป็นส่วนหนึ่งที่เข้าเกณฑ์ของการตัดสินในแต่ละปี

๏ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ได้นำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าสนใจและมีความทันสมัยมาใช้กับรถยนต์ที่จำหน่ายในเมืองไทย ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังผู้บริโภคชาวไทยที่จะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้

“รถยนต์ใหม่ที่เป็นโมเดลเชนจ์ยังเข้าเกณฑ์เหมือนเดิม แต่เราคิดว่าจะต้องเพิ่มหัวข้อเพื่อเปิดโอกาสรถยนต์รุ่นปรับโฉมมีสิทธิ์ที่จะได้รับการพิจารณา แต่ทั้งนี้ในกรอบการพิจารณาจะมีความเข้มงวดกว่าด้วยการกำหนดให้รถยนต์รุ่นปรับโฉมจะต้องมีความเปลี่ยนแปลง 3 ใน 5 หัวข้อที่ทางอนุกรรมการตั้งเอาไว้ นั่นคือ ระบบขับเคลื่อน (Powertrain), ความเปลี่ยนแปลงภายนอกหรือภายใน (Exterior/Interior) ระบบความปลอดภัย (Safety System) นวัตกรรมที่น่าสนใจ (Innovation System) และระดับค่ามลพิษที่ลดลง-ความประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้น (Emission/Fuel Consumption) ซึ่งเกณฑ์ในแต่ละหัวข้อ ทางอนุกรรมการปีนี้กำลังเร่งทำงานในการกำหนดเป็นกรอบในการพิจารณา และจะมีการประกาศอีกครั้งในเร็วๆ นี้” นายสุรศักดิ์ กล่าวสรุป

ด้านนายสุรมิส เจริญงาม อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย กล่าวว่า การจัดงานรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 หรือ THAILAND CAR EV & MOTORCYCLE OF THE YEAR 2025 ในปีนี้ยังยึดหลักการเดิมในการพิจารณาคัดเลือกตามที่เคยถือปฏิบัติมา แต่ในปีนี้คณะอนุกรรมการฯ ได้หยิบยกประเด็นพิจารณาถึงการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบที่จะให้มีการครอบคลุมถึงรถยนต์รุ่น “ปรับโฉม” (Minor Change) โดยเพิ่มหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกให้มีความเหมาะสมเป็นธรรมกับรถทุกรุ่น

“การคัดเลือกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 ยังยึดระยะเวลารถที่เปิดตัวในช่วง 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 พร้อมเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสู่ตลาด นอกจากนี้ต้องเป็นไปตามกติกาที่คณะอนุกรรมการกำหนด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับแก้กติกาเงื่อนไขการคัดเลือกรถที่จะเข้าร่วมรับรางวัลให้สอดคล้องกับทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเข้ามามีบทบาทกับตลาดรถยนต์ในบ้านเราเป็นอย่างมาก” นายสุรมิส กล่าวในที่สุด

Recent Posts

Categories

Related Articles

ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม ยอดขาย 52,229 คัน เพิ่มขึ้น 4.7% โตโยต้ายังครองแชมป์ยอดขายอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาดห้าเดือนแรกที่ 37.5%

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2568 ยอดขายตลาดรวม 52,229 คัน เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย...

มั่นใจทั่วไทย! ซูซูกิรุกขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ 2S เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าทั่วไทยครอบคลุมทุกพื้นที่ 93 แห่ง เตรียมพร้อมเปิดตัวรถยนต์ใหม่ในปีนี้

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าตอกย้ำพันธกิจในการมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าทุกคน ผ่านการยกระดับการให้บริการหลังการขาย ด้วยการขยายเครือข่ายศูนย์บริการมาตรฐานซูซูกิ 2S (Service & Spare...

ฟอร์ดฉลอง 15 ปี โรงงานเอฟทีเอ็ม ยกระดับคุณภาพพาฟอร์ด เรนเจอร์สู่เวทีโลก

โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) หนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์สำคัญของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ฉลองครบรอบ 15 ปี สะท้อนพลังศักยภาพคนไทยที่ร่วมกันสร้างสรรค์ยนตรกรรมคุณภาพระดับโลก และยืนหนึ่งในบทบาทการเป็นศูนย์กลางการผลิตฟอร์ด เรนเจอร์...