Hotline 083-411-9393
Tuesday , 10 June 2025
Home Lifestyle CITE DPU ปั้นมนุษย์ทำงาน Gen Z-Y เก่ง AI พลิกโฉมหลักสูตรไอที กุญแจสู่โอกาสโลกอนาคต
Lifestyle

CITE DPU ปั้นมนุษย์ทำงาน Gen Z-Y เก่ง AI พลิกโฉมหลักสูตรไอที กุญแจสู่โอกาสโลกอนาคต

วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (CITE) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ดึง AI เสริมแกร่งหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ​ (IT) ระดับปริญญาโท จัดเต็มทักษะโลกอนาคต ‘AI-Cyber Security-Analytics’ ปั้นมนุษย์งาน Gen Z-Y ก้าวสู่ ‘ซูเปอร์ ยูสเซอร์’ ยกระดับผู้ใช้งานและบริหารจัดการ AI อย่างชาญฉลาด ตอบโจทย์อุตสาหกรรมสมัยใหม่ พร้อมเพิ่มโอกาสความก้าวหน้าในทุกสายอาชีพ

ผศ.ดร.นันทิกา ปริญญาพล ผู้อำนวยการหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (CITE : College of Engineering and Technology) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อการเรียน และ การทำงาน ไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเป็นผลมาจากความสามารถของ AI ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และการนำไปใช้งานที่ครอบคลุมได้หลากหลายด้าน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนยุคนี้ที่ต้องปรับตัว พร้อมเร่งพัฒนาทักษะด้าน AI ในระดับของการ “รู้จัก” และ “ประยุกต์ใช้งาน” เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทั้งด้านประสิทธิภาพของงาน และการบริหารจัดการต้นทุนที่คุ้มค่า

ความก้าวหน้าของ AI ในวันนี้เกิดขึ้นแล้วในหลายสายงาน ทั้งด้านการแพทย์ มีการนำ AI มาช่วยวิเคราะห์และอ่านค่าฟิล์มเอกซเรย์ MRI หรือ CT-Scan โดยอัลกอริทึม Machine Learning สามารถตรวจจับความผิดปกติในภาพได้ เช่น วินิจฉัยโรคมะเร็งในระยะแรก นอกจากนี้ AI ยังช่วยในการพยากรณ์โรคและช่วยวางแผนการรักษาส่วนบุคคล (Personalized Medicine) AI ถูกนำเข้าไปช่วยในการบริหารจัดการคลังสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนที่ลดลง พยากรณ์ความต้องการสินค้า (Demand Forecasting) รวมถึงการตลาดอีคอมเมิร์ซ ในการเจาะลึกถึงความต้องการจากนั้นนำเสนอสินค้าได้อย่างตรงใจ รวมถึงสายงานด้านการเงินและธนาคาร ที่มีการนำ RPA (Robotic Process Automation) มาใช้ในกระบวนการทำงานซ้ำ ๆ หรือตรวจจับพฤติพรรมฉ้อโกง (Fraud Detection) วิเคราะห์เครดิตของลูกค้า และให้คำแนะนำการลงทุนผ่านผู้ช่วยเสมือนและแชทบอต เป็นต้น

“จากความสามารถที่มากขึ้น และครอบคลุมหลากหลายด้านของ AI นำไปสู่ข้อกังวลจากคนในสังคมถึง AI กับการเข้ามาแทนที่การทำงานของคนในสาขาอาชีพต่าง ๆ และเกิดปัญหาการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจากมุมมองแล้ววันนี้ AI ทำงานได้ดีและเก่งในบางเนื้องานเท่านั้น เช่น งานที่ทำแบบเดิม ๆ และมีความต่อเนื่อง แต่สำหรับงานที่ใช้ความซับซ้อนที่มากขึ้นหรือไม่คุ้นเคย AI ยังต้องการการพัฒนาให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน AI ยังคงไม่เข้าใจความซับซ้อนของอารมณ์มนุษย์ อย่างไรก็ดี การปรับตัวด้วยการพัฒนาความรู้ใหม่ (Upskill) ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทักษะด้าน AI เพื่อให้แน่ใจได้ว่างานที่ทำอยู่นั้นจะไม่ถูกดิสรัป (Disrupt) ในอนาคต” ผศ.ดร.นันทิกา กล่าว

ทั้งนี้ จุดเด่นและแนวคิดของการปรับหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (CITE : College of Engineering and Technology) เป็นการปรับเนื้อหารายวิชา เพื่อยกระดับความรู้ด้าน AI ของผู้เรียนไปสู่การใช้งานในระดับ “ซูเปอร์ ยูสเซอร์” (Super User) ที่นำ AI ไปเป็นเครื่องมือในการทำงานอย่างชาญฉลาดและเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งการปรับหลักสูตรครั้งใหม่นี้เป็นการนำ AI เข้ามาเป็นหนึ่งในการเรียนรู้ของทุกแกนวิชาหลัก เช่น การรักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่าย หรือ Cyber Security ซึ่งผู้เรียนในหลักสูตรนี้จะมีทักษะในการใช้เครื่องมือ AI กับ Cyber Security อย่างถูกต้องเมื่อถูกโจมตีจากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต  เพื่อระบบการจัดการที่ดีในการรักษาความปลอดภัยข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางธุรกิจ และข้อมูลการเงิน

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาทักษะทางด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic) และการจัดการชุดข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Mining) ครอบคลุมหัวข้อ เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) การเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการวิเคราะห์และใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ รวมถึงการให้ความสำคัญกับจริยธรรมใน AI ซึ่งหลักสูตรเราได้มีการปรับและประยุกต์เนื้อหาให้สอดคล้องกับการพัฒนาบุคลากรด้าน AI เพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยเปิดรับสมัครสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในปีการศึกษา 2568 ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักสำหรับหลักสูตรนี้เป็นคนทำงานในองค์กรภาครัฐและเอกชน สำหรับผู้สนใจในทุกระดับ ไม่ว่าจะมีพื้นฐานด้านไอทีหรือไม่ กลุ่มผู้เรียนแบ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้มีพื้นฐานด้านไอที (Non-IT) และกลุ่มที่มีพื้นฐานด้านไอทีโดยตรง สัดส่วนประมาณ 50:50 หลักสูตรนี้ออกแบบเพื่อผู้เรียนทุกคนได้รับประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง ซึ่งกลุ่ม Non-IT จะได้เสริมทักษะใหม่ที่ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนสายงานได้อย่างมั่นใจ ขณะที่กลุ่มไอทีจะได้ต่อยอดความรู้เพื่อเสริมศักยภาพและสร้างความก้าวหน้าในสายงานของตนเอง

นอกจากหลักสูตรที่เข้มข้นแล้ว ผศ.ดร.นันทิกา กล่าวว่า  บรรยากาศของการเรียนรู้ที่ CITE จะเต็มไปด้วยความหลากหลายของมุมมองและประสบการณ์ของผู้เรียน พร้อมทั้งส่วนสนับสนุนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำโครงการแบบ Project Based ที่ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจทฤษฎีผ่านการปฏิบัติจริง และต่อยอดความรู้จนเกิดเป็นผลงานที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริง รวมทั้งการบรรยายพิเศษจากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นตัวจริงด้าน AI และมีห้องสมุดที่พร้อมสำหรับการค้นคว้าวิจัย เพื่อให้มั่นใจในการนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดสร้างโอกาสในตำแหน่งงาน และเพิ่มมูลค่าให้กับผู้เรียนจากทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ AI พร้อมปลูกฝังหลักจริยธรรมในเทคโนโลยี (Al Ethics) เพื่อให้ผู้เรียนไม่เพียงมีความเชี่ยวชาญ แต่ยังเข้าใจถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ หลักสูตรนี้จึงเป็นมากกว่าการเรียนในห้องเรียน แต่เป็นประตูสู่การพัฒนาตนเอง สร้างความก้าวหน้าในอาชีพ ตอบโจทย์อนาคตและสร้างความแตกต่างในสายอาชีพ เปิดรับสมัครแล้ววันนี้  ผู้สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://cite.dpu.ac.th/

Recent Posts

Categories

Related Articles

ยูนิ.ชาร์ม ตอกย้ำพันธกิจ “สร้างสังคมแห่งการดำรงอยู่ร่วมกันให้เกิดขึ้นเป็นจริง”

ยูนิ.ชาร์ม (ประเทศไทย) จำกัด สานต่อพันธกิจ “การสร้างสังคมแห่งการดำรงอยู่ร่วมกันให้เกิดขึ้นเป็นจริง” ภายใต้ Love Your PossibilitiesCorporate Brand Essence “Love...

เครือข่ายครูไทยฯ ออกแถลงการณ์ วอน รมว.ศึกษา ล้ม MOU โรงเบียร์ ให้สวัสดิการจูงใจครูเข้าถึงอบายมุข กระทบสุขภาพกาย สุขภาพจิต ทำเกียรติแห่งวิชาชีพเสื่อมถอย ลูกศิษษ์เอาอย่างติดเหล้าตั้งแต่เด็ก พร้อมยกตัวอย่างสวัสดิการที่ดี ลดค่ายา-ค่ารักษา-ค่าเดินทาง

นางชญาภา คุณปิติคณา ผู้ประสานงานเครือข่ายครูไทยไม่เอาสวัสดิการเพิ่มอบายมุข เปิดเผยว่า เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เมื่อวันที่ 14...

เครือข่ายเยาวชน ยื่น 4 ข้อ ถึงนายกฯ เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ขอบคุณที่เอาจริงปราบบุหรี่ไฟฟ้า ปกป้อง เด็ก เยาวชน หวังเห็นการทำงานต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มโทษคนทำผิด เจ้าหน้าที่รับส่วย

เครือข่ายเยาวชน-ครอบครัว นำโดย นางสาวยศวดี ดิสสระ แกนนำเครือข่ายนักสื่อสารรุ่นใหม่ และ นางสาวเพชรลดา ศรัทธารัตนตรัย แกนนำเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง พร้อมเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว เครือข่ายครอบครัวปลอดบุหรี่...

เครือข่ายเยาวชนเชียร์รัฐบาลปราบบุหรี่ไฟฟ้า ขอจริงจังต่อเนื่อง ชงเพิ่มโทษหนักเจ้าหน้าที่รัฐรับส่วยหรือทำผิดเสียเอง วอนเร่งสร้างความชัดเจน ในขอบเขตอำนาจของครูและบุคลากรทางการศึกษา ขั้นตอนการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงการจัดการหลังตรวจยึด มิให้เด็กกลายเป็นผู้ต้องหา

นายธนภัทร แสงหิรัญ ผู้ประสานงานเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน(ขสย.) กล่าวว่าต้องขอบคุณรัฐบาลที่จริงจังกับการแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อปกป้องเด็ก เยาวชนและคุ้มครองสุขภาพประชาชน ถือว่าเป็นนโยบายรูปธรรมที่ชัดเจน และจับต้องได้อันหนึ่ง แม้ช่วงใกล้เลือกตั้งพรรคเพื่อไทยเคยมีแนวคิดจะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย แต่เข้าใจว่าเมื่อได้รับข้อมูลต่างๆชัดเจนขึ้น หลักฐานงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศออกมาต่อเนื่อง และข่าวสารผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้าเกิดขึ้นรายวัน...