Hotline 083-411-9393
Monday , 11 August 2025
Home Lifestyle CIBA DPU ตอบรับเทรนด์รักษ์โลก ใน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568” ชูผลิตภัณฑ์จากเศษผ้า ภายใต้แนวคิด ‘Zero Waste’
Lifestyle

CIBA DPU ตอบรับเทรนด์รักษ์โลก ใน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568” ชูผลิตภัณฑ์จากเศษผ้า ภายใต้แนวคิด ‘Zero Waste’

วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA)  มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU)  ร่วมนำเสนอผลงานการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์จากผ้าทอมือลายวิจิตรนนทรี ภายในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025)”  โดยผลงานดังกล่าว อยู่ภายใต้โครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ปีที่ 6 ชูแนวคิด Zero Waste ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากเศษผ้า เพื่อลดปริมาณขยะและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศษผ้าที่เหลือทิ้งจากการตัดเย็บ อาทิ กิ๊บติดผม โบว์  กระเป๋า และอื่น ๆ เจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่น ตั้งเป้าเพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน  โดยทีมผู้รับผิดชอบโครงการฯ ประกอบด้วย อาจารย์สุรชัย สวนทับทิม รองคณบดีและหัวหน้าหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศและสาขาวิชาการจัดการ   ทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบโครงการหลัก โดยมี ผศ.ชุติธารรัฐ อุตมะสิริเสนี ทำหน้าที่หัวหน้าทีมที่ปรึกษาโครงการฯ  และคณะทีมที่ปรึกษาโครงการวิจัย ได้แก่  อาจารย์สุกัญญา สิงห์ตุ้ย และ ผศ. ดร.จรัญญา ปานเจริญ

ผศ.ชุติธารรัฐ อุตมะสิริเสนี อาจารย์ประจำหลักสูตรสาขาการตลาดและการสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัล  วิทยาลัย CIBA

ผศ.ชุติธารรัฐ อุตมะสิริเสนี อาจารย์ประจำหลักสูตรสาขาการตลาดและการสร้างแบรนด์ในยุคดิจิทัล  วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ปีที่ 6 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างวิทยาลัย CIBA และธนาคารออมสิน มีเป้าหมายส่งเสริมให้นักศึกษานำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชนอย่างยั่งยืน โดยนักศึกษาจากทีม DPU รักษ์ถิ่น ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ผ้าทอลายวิจิตรนนทรี จากศูนย์วิสาหกิจทอผ้าจังหวัดนนทบุรี (กลุ่มรวมใจรักษ์มหาสวัสดิ์) วัดโคนอนมหาสวัสดิ์ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็น 1 จาก 5 ชุมชน ที่นักศึกษาและทีมคณาจารย์ ได้เข้าไป ร่วมคิด ร่วมทำ และบูรณาการภูมิปัญญา โดยนำวิทยาการ กระบวนการทำงานสมัยใหม่ ไปยกระดับขีดความสามารถ พร้อมผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ  ให้มีศักยภาพ มีมูลค่าเพิ่มและสามารถแข่งขันในตลาดได้

 ทั้งนี้ ศูนย์วิสาหกิจทอผ้าจังหวัดนนทบุรี เป็นศูนย์ทอผ้าที่เปิดใหม่ จึงมีความต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้าไปช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์และทำการตลาดซึ่งเดิมนั้นศูนย์ทอผ้าแห่งนี้ มีทีมช่างทอผ้าที่ล้วนเป็นผู้สูงอายุซึ่งมีทักษะการทอผ้าเป็นผืนเพียงอย่างเดียว  ดังนั้น CIBA จึงหาแนวทางในการพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายใหม่ แต่ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากผ้าลายวิจิตรนนทรีซึ่งเป็นลายอัตลักษณ์ของจังหวัดนนทบุรี  ซึ่งเดิมการนำผ้าผืนมาตัดเป็นชุดวางขาย ทำให้เกิดเศษผ้าเหลือใช้จำนวนมาก  ทีมนักศึกษาจึงพัฒนาสินค้าใหม่ จากแนวคิด Zero Waste เพื่อลดปริมาณขยะจากเศษผ้าและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยออกแบบผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์จากเศษผ้า อาทิ กระเป๋า พวงกุญแจ กิ๊บติดผม และโบว์ เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะกิ๊บติดผมที่ขายดีเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการออกแบบที่ทันสมัยและราคาที่เหมาะสม

โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับคัดเลือกจาก ศูนย์วิจัย พัฒนา และนวัตกรรม (Research Development and Innovation : RDI) ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ให้เข้าร่วมจัดแสดงในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568” โดยจัดแสดงในธีมการพัฒนาชุมชนวิสาหกิจและSMEs สอดคล้องกับ SDGs (Sustainable Development Goals)  ของมหาวิทยาลัย และเป็นตัวอย่างของการวิจัยเชิงประยุกต์ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและเศรษฐกิจในระดับชุมชน ทั้งยังตอบสนองเทรนด์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน

“เรามีเป้าหมายที่จะสร้างชมรมมัคคุเทศก์น้อยผ้าลายวิจิตรนนทรีให้ได้ภายในปีนี้ หากชุมชนสามารถต่อยอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ จะทำให้เกิดความเข้มแข็งในชุมชน โดยให้โรงเรียนเป็นแกนนำต่อยอดไปยังโรงเรียนอื่นๆ ในพื้นที่ เพื่อสร้างเครือข่ายจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการยกระดับผ้าลายวิจิตรนนทรีให้เป็นที่รู้จักและเกิดความยั่งยืน รวมถึงผลักดันให้ผ้าไทยลายนี้เป็นชุดประจำจังหวัดที่ใส่ได้หลากหลายโอกาสและเป็นที่นิยม

นอกจากนี้ยังมีการจัดอบรมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการนำเศษผ้ามาตัดเย็บ ทำให้มีผู้ผลิตสินค้าจากเศษผ้าเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ยังผลักดันให้ศูนย์ทอผ้าเป็นศูนย์การเรียนรู้ ผ่านการประชาสัมพันธ์ทางสื่อออนไลน์ และการเข้าร่วมงานหรือเวทีต่างๆ” ผศ.ชุติธารรัฐ กล่าว

ผศ.ชุติธารรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น เป็นตัวอย่างที่ดีของการบูรณาการความรู้ทางวิชาการกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งผลให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับประสบการณ์ในการนำความรู้จากห้องเรียนสู่การปฏิบัติจริง นอกจากนี้ การได้ทำงานร่วมกับชุมชนจะช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และความเข้าใจบริบทสังคมที่หลากหลาย ซึ่งจะเปิดมุมมองใหม่และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักศึกษาก่อนก้าวสู่โลกการทำงาน เมื่อเรียนจบไปแล้ว ไม่ว่าจะเลือกเป็นผู้ประกอบการหรือไปทำงานในองค์กรชั้นนำ นักศึกษาก็สามารถนำองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปต่อยอดในอาชีพได้ โครงการนี้ยังเป็นการยืนยันคุณภาพของหลักสูตรเมื่อนักศึกษาสามารถสร้างผลลัพธ์เป็นรูปธรรมได้ พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกในการใช้ความรู้เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติอย่างแท้จริง

สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนของ CIBA DPU นอกจากความรู้ด้านวิชาการแล้ว ยังจัดกระบวนการ เตรียมความพร้อมนักศึกษาตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ผ่านการเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาถ่ายทอดความรู้ให้กับนักศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน พร้อมลงมือปฏิบัติงานจริงจากโจทย์ปัญหาของสถานประกอบการ เพื่อให้นักศึกษาได้สั่งสมประสบการณ์ในทุกชั้นปีการศึกษา นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี พร้อมทั้งการพัฒนาศักยภาพให้แก่อาจารย์ผู้สอนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพื่อให้สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ทันสมัยแก่นักศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สนใจหลักสูตร CIBA DPU ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://www.dpu.ac.th/th/college-of-innovative-business-and-accountancy

Related Articles

CADT DPU จัด Flight Simulator Landing Challenge 2025 สร้างแรงบันดาลใจสู่อาชีพนักบินพร้อมเปิดหลักสูตร ป.ตรี ควบใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี ภายใน 3.5 ปี

วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน (CADT) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดการแข่งขันการบินเสมือนจริงโดยเครื่องจำลองการบิน (Simulator) ภายใต้โครงการ Flight Simulator Landing Challenge 2025...

Trip.com Group ตอกย้ำบทบาทผู้นำท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก เปิดตัวฟีเจอร์แสดงข้อมูลปล่อยคาร์บอนทุกการเดินทาง พร้อมดูแลชุมชนและพนักงานครบทุกมิติ

Trip.com Group ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำ ได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนฉบับล่าสุด โดยรายงานนี้แสดงให้เห็นความก้าวหน้าที่สำคัญของบริษัทในด้านความยั่งยืน โดยมีหลักการ “Friendly Four” เป็นแนวทาง ได้แก่ การเป็นมิตรต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นมิตรต่อชุมชน...

สสส.– มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ผนึก โรงเรียนเสนานิคม จัดนิทรรศการสัญจร “FAKE OR FRESH?” ปลูกภูมิคุ้มกันเด็กไทย “เลือกได้ ดูออก” เท่าทันภัยบุหรี่ไฟฟ้า

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว จัดนิทรรศการสัญจร FAKE OR FRESH? – MY LIFE EXHIBITION ภายใต้โครงการ...