Hotline 083-411-9393
Tuesday , 21 January 2025
Home Lifestyle ขยับนิด-ยืดหน่อย แก้ “ออฟฟิศซินโดรม” ชวนคลายปวดเองด้วยท่าออกกำลังกายง่ายๆ เพื่อร่างกายที่ดีขึ้น
Lifestyle

ขยับนิด-ยืดหน่อย แก้ “ออฟฟิศซินโดรม” ชวนคลายปวดเองด้วยท่าออกกำลังกายง่ายๆ เพื่อร่างกายที่ดีขึ้น

เวลานั่งทำงานท่าเดิมหรือจ้องหน้าจอนาน ๆ เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็เคยมีอาการปวดเมื่อยที่หลัง สะโพก คอ บ่า ไหล่ จนบางครั้งอาการปวดตึงลามขึ้นศีรษะทำให้กระทบการทำงานและการใช้ชีวิตกันมาบ้าง หากมีอาการเหล่านี้ แสดงว่าคุณกำลังเสี่ยงเป็น ออฟฟิศซินโดรม” (Office Syndrome) กลุ่มอาการเจ็บป่วยยอดฮิตจากโลกการทำงานที่รวมอาการอักเสบของกล้ามเนื้อคอ ไหล่ และหลัง ซึ่งเกิดจากการหดเกร็งและใช้งานกล้ามเนื้อในท่าทางที่ไม่ถูกสุขลักษณะเป็นเวลานาน โดยอิริยาบถที่ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งเป็นเวลานาน ๆ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงขึ้น เช่น กระดูกสันหลังทับเส้นประสาท หรืออาการปวดรุนแรงและเรื้อรังที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ดังนั้น ชาวออฟฟิศจึงควรหาแนวทางป้องกันไม่ให้โรคมีความรุนแรงจนเสี่ยงหลายโรคร้ายตามมา

การป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมป้องกันได้ ไม่ยาก แค่ปรับพฤติกรรม! โดยสามารถทำได้ด้วยการปรับท่าทางการนั่งทำงานให้ถูกต้อง เช่น นั่งหลังตรง ปรับระดับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา คอยลุกเดินขยับร่างกาย และยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุก ๆ 30 นาที โดยหนึ่งในเคล็ดลับที่สามารถป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดี คือการออกกำลังกายที่เน้นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อในระหว่างการนั่งทำงาน และวันนี้ บริษัท ฟิตเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (FIT®) สถาบันฝึกอบรมที่ให้ความรู้และสถานที่ฝึกสอนการออกกำลังกาย รวมถึงออกใบประกาศนียบัตรวิชาชีพที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมาแนะนำท่ายืดง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้เองทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ซึ่งสามารถช่วยลดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อและปรับสมดุลให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

เริ่มด้วยท่าที่หนึ่งกับการบริหารกล้ามเนื้อช่วงคอ โดยนั่งหลังตรง โน้มศีรษะไปด้านหน้าเล็กน้อย และหมุนออกด้านขวาช้า ๆ ค้างไว้ประมาณ 10 วินาที และทำเหมือนเดิมในด้านซ้าย ด้านละ 3 ครั้ง ต่อไปเป็นการยืดคอด้านข้างด้วยการหันหน้าไปทางขวาค้างไว้ 10 วินาทีและทำแบบเดิมกับด้านซ้าย ทั้งสองท่าจะช่วยคลายความตึงที่คอและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กระดูกสันหลังส่วนบน

ต่อมาเป็นการยืดกล้ามเนื้อด้านข้างลำตัวที่มักปวดตึงเวลานั่งนาน ๆ ซึ่งสามารถคลายได้ด้วยการนั่งหลังตรง หายใจเข้าพร้อมประสานมือขึ้นเหนือศีรษะ งอศอกได้เล็กน้อย และหายใจออกเอียงตัวไปทางขวา กลับมานั่งตรงพร้อมหายใจเข้าและเอียงไปทางซ้าย ทำสลับข้าง 3-5 ครั้งอาการตึงข้างลำตัวจะคลายลง สำหรับท่าสุดท้าย จะช่วยยืดลำตัวหน้าหลังและหน้าด้าน เพียงนำมือทั้ง 2 ข้าง มาจับที่หัวเข่าด้านหน้า หายใจเข้ายืดตัวตรงขยายทรวงอกขึ้น ยืดคอให้ยาว ยืดคาง เงยหน้าเล็กน้อย เพื่อยืดลำตัวด้านหน้า ดังจากนั้นหายใจออก แขม่วหน้าท้อง โค้งตัวงอไปด้านหลัง พร้อมกับค่อยๆ กดคอลงมาใกล้หน้าอก เพื่อยืดลำตัวด้านหลัง ทำซ้ำ 3-5 ครั้งเพิ่มความยืดหยุ่นให้กระดูกสันหลังส่วนกลาง

โรคออฟฟิศซินโดรม แม้จะเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของชาวออฟฟิศ แต่ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพียงหาเวลาลุกเดินและยืดเส้นทุกวันด้วยท่าที่ทำง่าย ๆ ทุกที่ทุกเวลา เท่านี้ก็จะช่วยรักษาสุขภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในระยะยาว หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่สนใจสุขภาพและอยากพบปะผู้เชี่ยวชาญจากวงการฟิตเนสทั่วโลก เอเชีย ฟิตเนส คอนเฟอเรนซ์ 2024 เป็นงานที่คุณไม่ควรพลาด! เพราะคุณจะได้พบกับเวิร์กชอปและคลาสออกกำลังกายจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในวงการฟิตเนสทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการสาธิตท่าบริหารง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ที่บ้าน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง เพิ่มการขยับข้อต่อ และปรับสมดุลร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาและการแนะนำเทคนิคการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเฉพาะด้านอีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเข้าร่วมออกกำลังกาย และร่วมคลาสการเรียนรู้ในงาน เอเชีย ฟิตเนส คอนเฟอเรนซ์ 2024 เปิดลงทะเบียนรอบ Special Rate ภายใน 30 กันยายน 2567 ซึ่งมีทั้งบัตรประเภท 1 วัน ราคา 9,500 บาท, บัตรประเภท 2 วัน ราคา 12,500 บาท และบัตรประเภท 3 วัน ราคา 14,700 บาท ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดการจัดงาน ตารางอบรมเต็มรูปแบบพร้อมเนื้อหาทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ลงทะเบียนเข้าร่วมงานและชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ บนหน้าเว็บไซต์คลิก http://www.asiafitconference.com หรือ ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 650 9242 หรืออีเมล afc@fitthai.com

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสวนากลุ่มกับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำทั้ง 4 ท่าน อาทิ จิมมี่-ยุทธนา พลเจริญ, นิว-วีระเดช ผเด็จพล แพท-กฤษฎี โพธิทัต และดร.ไบรอัน คุณาคม ในวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 10.00 น.-12.00 น. ที่เวทีกลางโซนแสดงสินค้า ณ ไบเทค บางนา จัดขึ้นภายใต้ธีม “Leading Wellness Through Lifestyle Transformation” มุ่งสร้างสุขภาพองค์รวมผ่านการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อสอดคล้องกับการใช้ชีวิตคนยุคปัจจุบัน ประกอบด้วยแนวคิด 4 ประการ ได้แก่ “ออกกำลังกายดี” เคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ “อาหารดี” กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ “อารมณ์ดี” สร้างสุขความสุขลดความเครียดในชีวิตประจำวัน และ “นอนดี” นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

Related Articles

เครือข่ายครูดีไม่มีอบายมุข ประกาศไม่เอาคาสิโน บุหรี่ไฟฟ้า สุราเสรี ห่วงสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ ย้ำ แม่พิมพ์ของชาติต้องรวมพลังเป็นแบบอย่างที่ดีครองตนรักษาศีล 5 เนื่องในวันครู

นางชยาภา คุณปิติคณา ครูโรงเรียนวมินทราชูทิศ อีสาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามุกดาหาร ประธานเครือข่ายครูดีไม่มีอบายมุข ปี 2567 (ปีที่13) เปิดเผยว่า ภายในงานประกาศรางวัลโครงการครูดีไม่มีอบายมุข ปี...

องค์กรด้านเด็ก จัดเสวนาสะท้อนปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 68 เสริมแกร่งความรู้ความเข้าใจด้านสิทธิเด็ก ห่างไกลปัจจัยเสี่ยงที่มากระทบการเติบโต

กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วยมูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568...

ศธ-สสส. เดินหน้า “ครูดีไม่มีอบายมุข” เสริมพลังครูไทย สู้วิกฤตอบายมุขถูกกฎหมาย พร้อมรับมือ “โลกเดือด” (Global Boiling) หวังครูไทยสร้างการเปลี่ยนแปลงเป็นแบบอย่างให้เด็ก เยาวชน ชุมชน ไม่ถูกมอมเมา เป็นต้นแบบสร้างสังคมที่ยั่งยืน

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณครูดีไม่มีอบายมุข ประจำปี2567 (ปีที่13) จัดโดยสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ...

จับตาพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ตรงปก ตีเช็คเปล่า เอื้อกลุ่มทุน?

จากข่าวความคืบหน้าว่า กระทรวงการคลังเตรียมนำเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนมกราคม 68 นี้ นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน แสดงความเห็นว่า “สิ่งที่น่าจับตามองคือ สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้จะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากน้อยเพียงใด...